รวมเมนูขนมไทย ที่ประดิษฐ์โดย “ท้าวทองกีบม้า” หรือ “มารี กีมาร์”
เมื่อครั้งที่ท้าวทองกีบม้า เข้ารับราชการในห้องเครื่องต้น กำกับเครื่องชาวพนักงานหวานในพระราชวัง ก็ได้สร้างสรรค์ขนมหวานหลายชนิด โดยดัดแปลงมาจากตำรับอาหารโปรตุเกสให้เป็นขนมหวานของไทย โดยผสมผสานความรู้ด้านการทำอาหารที่มีมาแต่เดิมมารวมเข้ากับวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น ทั้งยังสอนความรู้ดังกล่าวแก่เหล่าสตรีในบัญชา จนตำรับเป็นที่เผยแพร่โดยทั่วไปและตกทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมโปรตุเกสที่แพร่เข้าสู่สังคมไทยด้วยเหตุนี้ท้าวทองกีบม้าจึงได้การยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งขนมไทย” โดยขนมที่เชื่อว่าท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงเป็นขนมหวานของไทยนั้น มีดังต่อไปนี้
1.ทองม้วน
วัสดุ
- เตาอั้งโล่
- พิมพ์ทองม้วน
- ตะแกรงร่อนแป้ง
- อ่างผสม
- กระชอน
- กะละมัง
- ไม้แท่งกลม
ส่วนผสม
- แป้งสาลี 1 กิโลกรัม
- มะพร้าวขูด 2 กิโลกรัม
- ไข่ไก่ 10 ฟอง
- งาดำ 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 9 ขีด
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำสะอาด 7 ขีด
- น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- นำแป้งสาลีร่อนใส่ภาชนะไว้ นำมะพร้าวขูดมาคั้นกับน้ำ 7 ขีด นำแป้งสาลีที่ร่อนแล้วและน้ำตาลทรายผสมกันในอ่างผสม ใส่ไข่ไก่และเกลือ คนให้เข้ากัน
- จากนั้นใส่น้ำกะทิและงาดำ คนให้เข้ากัน นำพิมพ์ทองม้วนมาอังไฟ ใช้ไฟอ่อน อังจนพิมพ์ร้อนจัด
- ทาน้ำมันพืชให้ทั่วพิมพ์ทั้งสองด้าน อังไฟให้ร้อนอีกครั้ง ตักแป้งหยอดบนพิมพ์ บีบพิมพ์ให้แน่น อังไฟสักครู่ พลิกกลับอีกด้าน พอเหลือง
- ยกพิมพ์ออกจากเตา เปิดพิมพ์ใช้ปลายมีดแซะขนมขึ้น ม้วนด้วยไม้กลม ๆ ทันทีขณะที่ยังร้อนอยู่
ข้อมูลจาก www.thaismescenter.com
2. ขนมทองหยิบส่วนผสม
- ไข่แดงเป็ด 10 ฟอง
- น้ำลอยดอกมะลิ 5 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 5 ถ้วย
วิธีทำ
- ตอกไข่เป็น ระงอย่าให้ไข่แดงแตก จากนั้นก็แยกไข่แดงมาวางบนผ้าขาวบาง
- บีบไข่แดงผ่านผ้าขาวบาง จนได้ไข่แดงที่เนียนละเอียด แล้วตีด้วยเครื่องตีจนเนียนฟู
- เทน้ำลอยดอกมะลิลงในกระทะทองเหลือง แล้วนำน้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนงวด
- ใช้ช้อนตักไข่แล้วนำไปหยอดในน้ำเชื่อม หยอดให้ไข่แผ่เป็นแผ่นบางๆ แล้วพลิกกลับไปกลับมาให้สุกทั้งสองด้าน
- นำขนมมาแช่ให้น้ำสะอาด จากนั้นก็ก็จับจีบให้ได้ 5 แฉก แล้วจัดลงใส่ถ้วยเล็กๆ
————————————
3. ทองหยอด
ส่วนผสม
- ไข่เป็ด 20 ฟอง
- แป้งข้าวเจ้า10 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
- น้ำลอยดอกไม้ 1 1/2 ถ้วยตวง
- กระทะทองเหลือง
วิธีทำ
- ทำการแยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน ส่วนที่ต้องการคือไข่แดง ส่วนไข่ขาวเก็บไว้ไปประกอบอาหารอย่างอื่น
- นำไข่แดงวางบนผ้าขาวบาง แล้วบีบไข่แดงลงไปในชามผสมเพื่อกรองเยื่อไข่แดงให้ไข่เนียนยิ่งขึ้น ตีไข่แดงให้ขึ้นฟูแล้วใส่แป้งข้าวเจ้าลงไปตีอีกครั้งให้เข้ากัน
- ผสมน้ำลอยดอกไม้และน้ำตาลทราย ตั้งไฟแรงจนน้ำตาลเดือดพร้อมกับเคี่ยวใช้เวลาประมาณ 20 นาที จนกลายเป็นน้ำเชื่อมข้น
- เสร็จแล้วเทส่วนน้ำเชื่อมแยกไว้ในอ่างสำหรับแช่ทองหยอด และส่วนอีกส่วนให้ตั้งไฟไว้สำหรับหยอดทองหยอด
- ต้มน้ำเชื่อมให้เดือดฟูตลอด ใช้ปลายช้อนแกงตักแป้งขึ้นมา กะปริมาณให้พอเหมาะ ใช้นิ้งโป้งดันแป้งลงไปในกระทะ
- ขนมลอยขึ้นมาแสดงว่าสุกแล้ว ใช้กระชอนตักขนมขึ้นมาแล้วนำมาพักไว้ในชามน้ำเชื่อมที่แยกไว้ จากนั้นก็ตักขึ้นมาใส่ห่อขนมที่เตรียมไว้ได้เลยค่ะ
—————————-
4. ทองพลุ

ส่วนผสม
- แป้งสาลี 1 ถ้วย
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- น้ำสะอาด 1 ถ้วย
- เนยสด 3/4 ถ้วย
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
- ตั้งน้ำในหม้อจนเดือด จากนั้นจึงใส่เกลือ และเนยสด คนให้ละลายเข้ากันดี
- ค่อยๆ ใส่แป้งสาลีลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำตาล จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน กวนจนแป้งสุก และส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงนำไปใส่หม้อตีแป้ง และใช้เครื่องตี เมื่อแป้งเริ่มคลายความร้อนแล้ว จึงใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟองจนหมด ตีจนแป้งและ ไข่เข้ากันเป็นเนื้อเดียว เนียนสวย เป็นอันเสร็จ
- ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ตักส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ลงไปทอด ครั้งละประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ โดยใช้นิ้วปาดส่วนผสมให้หล่นลงไปในกระทะ เพื่อให้ ได้รูปทรงกลม ทอดจนขนมพองตัวและสุก เหลืองดี จึงตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
- นำขนมเสิร์ฟพร้อมไส้ที่เตรียมไว้ ถ้าเสิร์ฟทองพลุไส้เค็ม ให้นำมีดมาผ่าตัวขนมทองพลุ ให้มีช่องพอประมาณ จากนั้นจึงตักใส้เค็มที่ทำเตรียมไว้ ใส่ลงไปในขนมก่อน จึงค่อยนำเสิร์ฟ
ข้อมูลจาก ezythaicooking.com
—————————————-
5. ทองโปร่ง
ส่วนผสม
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาลทรายป่น 3/4 ถ้วย
- แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
- วานิลลา
วิธีทำ
- วอร์มเตา 150 องศา
- ตีไข่แดงจนฟู ทยอยใส่น้ำตาลทีละนิดจนหมด และใส่วานิลลา
- ร่อนแป้งสองรอบก่อน แล้วเอามาผสมกับไข่
- เอาพิมพ์ทาน้ำมันบางๆ เข้าเตาอบไปก่อน 2-3 นาที แล้วเอาออกมาหยอดแป้งลงไป 3/4 ของพิมพ์
- เอาเข้าเตา 12-15 นาที แล้วก็รอชิมตอนมันเย็นได้เลย
ข้อมูลและรูปภาพจาก myamipann.com
—————————————-
6. ฝอยทอง
ส่วนผสม
- ไข่เป็ด 5 ฟอง
- ไข่ไก่ 5 ฟอง
- น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำลอยดอกมะลิ 1 1/2 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)
- ไข่น้ำค้าง 2 ช้อนโต๊ะ (ไข่ขาวส่วนที่เป็นน้ำใสๆ ที่ติดอยู่กับเปลือกด้านป้าน)
- น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
- กรวยทองเหลืองหรือกรวยใบตอง (สำหรับโรยไข่ในกระทะ)
- ไม้แหลม (สำหรับตักและพับฝอยทองในกระทะ)
วิธีทำ
- ต่อยไข่ไก่และไข่เป็ด เลือกเอาเฉพาะไข่แดง นำออกมากรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อรีดเอาเยื่อออก
- ผสมไข่แดง, ไข่น้ำค้างและน้ำมันพืชเข้าด้วยกัน คนจนผสมกันทั่ว
- นำน้ำลอยดอกมะลิผสมกับน้ำตาลในกระทะทองเหลืองและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง รอจนเดือด
- นำส่วนผสมไข่แดงใส่ลงไปในกรวยและนำไปโรยในน้ำเชื่อมที่เดือด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีจนไข่สุกจึงใช้ไม้แหลม สอยขึ้นและพับให้เป็นแพตามต้องการ
- จัดใส่จาน เสิร์ฟเป็นของว่างทางเล่นในวันสบายๆ
ข้อมูลจาก ezythaicooking.com
7. กะหรี่ปั๊บส่วนผสม
- น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมใหญ่ 100 กรัม
- เนื้ออกไก่ 200 กรัม
- มันเทศ 300 กรัม
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
- ผงกะหรี่ 1 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
- น้ำเย็น 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปูนใส 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 270 กรัม (สำหรับชั้นแป้งนอก)
- น้ำมันรำข้าว 6 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำแป้งชั้นนอก)
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 140 กรัม (สำหรับแป้งชั้นใน)
- น้ำมันรำข้าว 6 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแป้งชั้นใน)
วิธีทำ
- ผัดไส้เตรียมไว้ก่อน โดยใส่น้ำมันรำข้าวและหอมหัวใหญ่ลงไปผัด จากนั้นก็ใส่เนื้ออกไก่ และ มันเทศหั่นเต๋า
- ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น เกลือป่น ซอสปรุงรส ผงกะหรี่ และ น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันจนทุกอย่างสุก และ เหนียวสามารถนำมาปั้นได้ เสร็จแล้วตักใส่จานแล้ววางพักไว้
- ผสมน้ำเย็นกับน้ำปูนใส ปรุงรสด้วยน้ำตาล และ เกลือ
- มาผสมแป้งส่วนของแป้งชั้นนอกกันก่อน โดยเทแป้งลงไปในชามผสม เกลี่ยแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง เทน้ำปูนใสที่ผสมไว้ลงไป ตามด้วยน้ำมันรำข้าว คนให้เข้ากันและนวดแป้งจนเนื้อเนียน แรปแล้วพักไว้
- ผสมแป้งชั้นในกับน้ำมันรำข้าว คนให้เข้ากันแล้วนวดจนเนียน และแรปพักไว้
- นำแป้งชั้นนอกออกมาตัดแบ่งเป็นชิ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน และแป้งชั้นในก็นำออกมาตัดแบ่ง วางแยกกันไว้ (แนะนำให้ดูตามคลิป)
- คลึงแป้งชั้นนอกและชั้นในเสร็จแล้ว นำไส้ที่ผัดไว้มาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วนำมาห่อกับแป้ง จับจีบให้เป็นรูปทรงของกะหรี่ปั๊บ
- จากนั้นก็นำไปทอดให้เหลืองกรอบ เสร็จแล้วก็สะเด็ดน้ำไมันขึ้นมาวางพักไว้ เตรียมใส่จานเสิร์ฟ หรือ ใส่กล่องสวยๆ สำหรับมอบให้กับคนอื่น
—————————————–
8. ขนมหม้อแกงส่วนผสม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วย
- นมข้นจืด 1 กระป๋อง
- ใบเตย 4-5 ใบ
- แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
- เผือกนึ่งบด 1 ถ้วย
- หอมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ผสมไข่ไก่ นมข้นจืด และน้ำตาลปี๊บ ใส่ถุงมือขยำจนน้ำตาลปี๊บละลาย
- ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไปแล้วก็ขยำด้วยใบเตยอีกครั้ง และกรองด้วยกระชอนเพื่อความเนียนของขนม
- ใส่เผือกบดลงไป คนให้เข้ากันจากนั้นก็นำหม้อตั้งไฟ ใส่หอมเจียวพร้อมกับน้ำมันของหอมเจียวด้วย
- เทส่วนผสมลงหม้อ แล้วคนจนขนมข้นเหนียว ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
- เทใส่พิมพ์สี่เหลี่ยม เคาะเพื่อไล่อากาศออก แล้วนำเข้าเตาอบ ใช้ไฟ 120 องศา ในเวลา 25 – 30 นาที
- เสร็จแล้วนำออกมาโรยด้วยหอมเจียวหรือเม็ดบัวก็ได้ค่ะ
—————————————–
9. สังขยา
ส่วนผสม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง , ไข่เป็ด 2 ฟอง
- หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
- ใบเตย 3 ใบ
- ฟักทอง 1 ลูก
วิธีทำ
- ผสมไข่กับหัวกะทิและน้ำตาลปี๊บ และขยำด้วยใบเตย ขำยำจนเข้ากันดี
- นำกะทิไปกรองเพื่อให้เนื้อสังขยาเนียน
- เตรียมฟักทองและคว้านเนื้อตรงกลางออก เทสังขยาลงไปในฟักทอง 3 ส่วน 4 ของฟักทอง
- นำไปนึ่งด้วยไฟอ่อน ใช้เวลา 45 นาที
10. ขนมผิง
ส่วนผสม- แป้งมันสำปะหลัง 2 1/2 ถ้วย
- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
- ไข่แดง 2 ถ้วย
วิธีทำ- ผสมกะทิ น้ำตาลทราย เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้เป็นยางมะตูม แล้วยกลง
- ใส่ไข่แดง กวนให้เข้ากัน ใส่แป้งนวดให้นานมากๆ หมักแป้งทิ้งไว้ 1 คืน
- ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางในถาดที่ทาน้ำมันมะพร้าว
- นำเข้าอบไฟ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-15 นาที จนเหลืองนวล พักให้เย็น
- นำอบควันเทียนให้หอม
ข้อมูลจาก thaifoodcookbook.net11. สัมปันนี
ส่วนผสม- แป้งมันสำปะหลัง 2 1/2 ถ้วยตวง
- กะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- เทียนสำหรับอบขนม
- สีผสมอาหารตามต้องการ
- พิมพ์สำหรับทำขนม
วิธีทำ- นำแป้งมันสำปะหลังไปคั่วในกระทะ ใช้ไฟอ่อนๆคั่วจนแป้งสุก(แป้งสุกจะไม่ติดกระทะใช้นิ้วแตะดูจะไม่ติดนิ้ว) เมื่อแป้งสุกแล้วนำไปอบด้วยเทียนอบขนมเพื่อให้แป้งมีกลิ่นหอม อบทิ้งไว้หนึ่งคืน)
- นำกะทิและน้ำตาลทรายมาเคี่ยวให้ละลายเข้ากัน ลดไฟอ่อนค่อยๆเคี่ยวจนส่วนผสมข้นเป็นยางมะตูมอ่อนๆแล้วพักไว้ให้อุ่น
- เมื่อน้ำกะทิอุ่นนำมาแบ่งใส่สีผสมอาหารตามที่ต้องการ แล้วค่อยๆใส่แป้งมันสำปะหลังที่คั่วสุก คนผสมจนแป้งข้นเป็นก้อนพอปั้นได้
- นำส่วนผสมแป้งที่ได้มากรุใส่พิมพ์ให้แน่น แล้วเคาะออก พักให้ขนมแห้งจึงเก็บใส่กล่องไว้กินได้หลายวัน(แป้งที่ยังไม่ได้กรุใส่พิมพ์ต้องหาผ้าปิดเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง)
ข้อมูลและรูปภาพจาก cookpad.com12. ขนมไข่เต่าส่วนผสม
- มันเทศ 500 กรัม
- แป้งมัน 200 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 30 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาล 130 กรัม
- กะทิ 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ- นำมันเทศไปนึ่งจนนิ่ม แล้วนำมาบดให้ละเอียด
- เทแป้งมัน แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือ และน้ำตาลลงไปในชามผสม คนให้เข้ากัน
- จากนั้นก็ใส่มันที่บดไว้ลงไป เอามือขยำให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทกะทิลงไปผสมแล้วขยำให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง
- เมื่อได้แป้งที่ผสมเสร็จแล้ว นำมาปั้นให้เป็นเม็ดกลมขนาดเท่ากับลูกชิ้นปลา
- ตั้งหม้อใส่น้ำมันให้ท่วม เมื่อน้ำมันร้อนจัดแล้ว ใส่ตัวขนมลงไปทอด เมื่อขนมเริ่มเปลี่ยนสีให้ใช้ตะหลิวคลึงๆ ตัวขนม (ทำเหมือนที่ร้าน) ขนมจะได้กรอบนอกนุ่มใน
- เสร็จแล้วให้ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นก็จัดการกินตอนที่กำลังร้อนๆ เลยค่ะ
13. ลูกชุบ
- ส่วนผสม
- ถั่วเขียวเลาะเปือก (นึ่ง) 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 300 กรัม
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- สีผสมอาหารตามใจชอบ
- วุ้น
วิธีทำ- นำถั่วเขียว น้ำตาลและกะทิ ปั่นรวมกันจนเนียน
- เทส่วนผสมลงไปในกระทะแล้วเคี่ยวจนถั่วนั้นปั้นเป็นลูกได้
- เตรียมสีผสมอาหารแยกไว้เป็นสีละถ้วย และเตรียมอุปกรณ์สำหรับเพ้นท์ เช่น พู่กัน และไม้แหลมสำหรับเสียบลูกชุบ
- ปั้นขนมให้เป็นรูปผลไม้ต่างๆ จากนั้นก็เสียบด้วยไม้แหลม ปักพักไว้ก่อน
- นำขนมที่ปั้นแล้ว ตกแต่งสีได้เลย แล้วนำไปตากให้สีแห้ง
- ละลายวุ้นเตรียมไว้ เมื่อขนมพร้อมแล้วให้นำมาชุบกับวุ้น เคลือบให้ขนมเป็นขึ้นเงาสวย อาจจะจุ่มสองรอบเพื่อความหนามากยิ่งขึ้น
- https://food.mthai.com/dessert/129261.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น